Category Archives: จังหวัดฉะเชิงเทรา
จังหวัดฉะเชิงเทรา
จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศไทย มีอาณาเขตติดต่อกับกรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงมีอาณาเขตติดกับอ่าวไทยเป็นระยะสั้นประมาณ 12 กิโลเมตร[3]
ศัพทมูลวิทยา[แก้]
ที่มาของคำว่า “ฉะเชิงเทรา” มีข้อสันนิษฐานที่แตกต่างกัน 2 ข้อ คือ[4]
- คำว่า ฉะเชิงเทรา มาจากคำภาษาเขมร 2 คำ คือ สทึง+เจรา ซึ่ง สทึง (ស្ទឹង) แปลว่า แม่น้ำสายย่อย และ เจรา (ជ្រៅ) แปลว่า ลึก เมื่อรวมความหมายก็ได้ว่า แม่น้ำลึก ซึ่งหมายถึงแม่น้ำบางปะกงนั่นเอง (มีผู้โต้แย้งข้อสันนิษฐานนี้ เนื่องจากว่าเมืองฉะเชิงเทรานั้นตั้งขึ้นมาในสมัยเดียวกับเมืองสาครบุรี เมืองนครไชยศรี และเมืองนนทบุรี ซึ่งไม่น่าจะมีคำเขมรมาปนอยู่ในชื่อเมืองแล้ว)
- คำว่า ฉะเชิงเทรา อาจเพี้ยนมาจากคำว่า แสงเชรา แสงเซา หรือ แซงเซา (ข้อสันนิษฐานนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน)
ประวัติ[แก้]
พ.ศ. 1000 มีชุมชนบ้านเมืองโบราณบริเวณสองฝั่งคลองลำน้ำท่าลาด หรือคลองท่าลาด ที่ไหลผ่านอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา หลายแห่งตั้งแต่บ้านเกาะขนุน ถึงบ้านท่าเกวียน ฯลฯ หลังพ.ศ. 1500 ฉะเชิงเทราและดินแดนใกล้เคียงคือ เมืองมโหสถ (อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี) กับเมืองพระรถ (อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี) ต่างรุ่งเรืองขึ้นจากการค้าโลก และมีความเกี่ยวข้องเป็นเครือญาติกับกษัตริย์ขอมทั้งเมืองละโว้ (ลพบุรี) และเมืองพระนคร (กัมพูชา) จนหลังหลัง พ.ศ. 1700 บริเวณลุ่มน้ำบางปะกง ตั้งแต่เขตฉะเชิงเทราถึงปราจีนบุรีกลายเป็นป่าดง เนื่องจากเป็นที่ดอนมากขึ้นจากทับถมของตะกอนปากแม่น้ำ ส่งผลให้เส้นทางคมนาคมออกอ่าวไทยไม่ค่อยสะดวกเช่นเดิม จนหลัง พ.ศ. 2000 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 โปรดให้ซ่อมแปลงคลองสำโรง ซึ่งเชื่อมแม่น้ำบางปะกง กับแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้สะดวกในการคมนาคม
ในสมัยรัชกาลที่ 3 หลังปี พ.ศ. 2369 ทรงยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์ ได้มีการกวาดต้อนครัวลาวพวกหนึ่งมาอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำบางปะกง เกิดเมืองใหม่ชื่อ เมืองฉะเชิงเทรา แต่ปากชาวบ้านเรียกชื่อเดิมที่มีมาก่อนว่า เมืองแปดริ้ว (ปัจจุบันคือ อำเภอบางคล้า) มีการสร้างป้อมเมืองฉะเชิงเทราเพื่อป้องกันศึกญวนและเขมรที่มาทางแม่น้ำบางปะกง และอ่าวไทย ราวปี พ.ศ. 2377 ต่อมา พ.ศ. 2381 ให้อพยพครอบครัวเจ้าองค์ด้วง แห่งกัมพูชา เข้ากรุงเทพฯ ส่วนบ่าวไพร่ทั้งหลายให้อยู่เมืองฉะเชิงเทรา (บริเวณ ชุมชนวัดดอนทอง ปากคลองบางตีนเป็ด ตรงข้ามอำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา)
ในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดให้ยกบ้านท่าถ่านเป็นเมืองพนมสารคาม (อำเภอพนมสารคาม) และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ปี พ.ศ. 2459 โปรดให้เมืองฉะเชิงเทรากับเมืองพนมสารคาม รวมกันสถาปนาเป็น จังหวัดฉะเชิงเทรา[5]
ภูมิศาสตร์[แก้]
ภูมิประเทศของจังหวัดฉะเชิงเทราแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนตะวันตกของจังหวัดตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำบางปะกง ส่วนตะวันออกมีลักษณะเป็นเนินเขา ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยกว่า 100 เมตร จังหวัดฉะเชิงเทรามีเกาะจำนวน 1 เกาะ คือ เกาะกลาง ที่บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง
![]() |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
|
สัญลักษณ์ของจังหวัด[แก้]
- ตราประจำจังหวัด เป็นรูปพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหารหลังใหม่ หมายถึง ที่ประดิษฐานพระพุทธโสธร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญของเมือง ตำนานเล่าว่าเป็นพระพุทธรูปแสดงปาฏิหาริย์ ลอยทวนน้ำมา ขึ้นที่จังหวัด ชาวเมืองเคารพ ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บันดาลให้ดิน และน้ำอุดมสมบูรณ์ มีรูปครุฑ และชื่อจังหวัดฉะเชิงเทราอยู่ด้านล่างโบสถ์
สีหลังคาพระอุโบสถ : เป็นสีด่อน (สีเทาควันบุหรี่) ซึ่งเป็นจริงของหลังคาพระอุโบสถหลังใหม่
พื้นหน้าพระอุโบสถ : เป็นสีเทาอ่อน มิใช่สีดำ
ขอบสีรอบเครื่องหมายราชการ : เป็นสีแดงเลือดหมู ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
- ต้นไม้ประจำจังหวัด นนทรีป่า
- ดอกไม้ประจำจังหวัด นนทรี
- สัตว์น้ำประจำจังหวัด ปลากะพงขาวหรือปลาโจ้โล้
- ลักษณะรูปร่างของจังหวัดฉะเชิงเทรา ลักษณะรูปร่างของจังหวัดฉะเชิงเทรามีรูปร่างคล้ายกับ “ค้อนตอกตะปู”
- คำขวัญประจำจังหวัด “แม่น้ำบางปะกงแหล่งชีวิต พระศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อโสธร พระยาศรีสุนทรปราชญ์ภาษาไทย เขาอ่างฤๅไนป่าสมบูรณ์”
หน่วยการปกครอง[แก้]
การปกครองแบ่งออกเป็น 11 อำเภอ 93 ตำบล 859 หมู่บ้าน
การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]
มีองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 110 แห่ง แบ่งออกเป็น 1 เทศบาลเมือง 33 เทศบาลตำบล 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัด และ 74 องค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีรายชื่อเทศบาลดังนี้
อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา
อำเภอบางคล้า อำเภอบางน้ำเปรี้ยว |
อำเภอบางปะกง | อำเภอบ้านโพธิ์
อำเภอพนมสารคาม |
อำเภอราชสาส์น
อำเภอสนามชัยเขต อำเภอแปลงยาว อำเภอท่าตะเกียบ
อำเภอคลองเขื่อน
|
ประชากร[แก้]
![]() |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
|
ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
2553 | 673,933 | — |
2554 | 679,370 | +0.8% |
2555 | 685,721 | +0.9% |
2556 | 690,226 | +0.7% |
2557 | 695,478 | +0.8% |
2558 | 700,902 | +0.8% |
2559 | 704,399 | +0.5% |
2560 | 709,889 | +0.8% |
2561 | 715,009 | +0.7% |
2562 | 720,113 | +0.7% |
2563 | 720,698 | +0.1% |
2564 | 724,178 | +0.5% |
อ้างอิง:กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย |
การศึกษา[แก้]
มหาวิทยาลัย[แก้]
- มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
- มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ฉะเชิงเทรา
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร
วิทยาลัย[แก้]
โรงเรียน[แก้]
การขนส่ง[แก้]
ระยะทางจากตัวจังหวัดไปอำเภอต่าง ๆ[แก้]
- อำเภอบ้านโพธิ์ 16 กิโลเมตร
- อำเภอคลองเขื่อน 18 กิโลเมตร
- อำเภอบางปะกง 20 กิโลเมตร
- อำเภอบางนํ้าเปรี้ยว 21 กิโลเมตร
- อำเภอบางคล้า 25 กิโลเมตร
- อำเภอราชสาส์น 32 กิโลเมตร
- อำเภอแปลงยาว 33 กิโลเมตร
- อำเภอพนมสารคาม 35 กิโลเมตร
- อำเภอสนามชัยเขต 51 กิโลเมตร
- อำเภอท่าตะเกียบ 79 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว[แก้]
- วัดโสธรวรารามวรวิหาร
- กำแพงเมืองฉะเชิงเทรา
- ศาลหลักเมืองฉะเชิงเทรา
- สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ฉะเชิงเทรา
- วัดเมือง
- วัดจีนประชาสโมสร
- วัดโพธิ์บางคล้า
- ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
- ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน
- เขาหินซ้อน
- ศูนย์ศึกษาพัฒนาการสังคมหมู่บ้าน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน
- สมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา (เจ้าแม่กวนอิมลอยน้ำ)
- สวนน้ำเกาะแก้วบางปะกง
- สวนปาล์มฟาร์มนก
- ตลาดน้ำบางคล้า