Category Archives: จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางและเป็นเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่สำคัญ โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ[3] และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน เคยมีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีอำเภอเมือง แต่มี อำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ ชาวบ้านโดยทั่วไปนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “กรุงเก่า” หรือ “เมืองกรุงเก่า” ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 75 กิโลเมตร

 

ภูมิศาสตร์[แก้]

สภาพภูมิอากาศ[แก้]

ข้อมูลภูมิอากาศของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 31.0
(87.8)
33.3
(91.9)
35.4
(95.7)
35.9
(96.6)
34.3
(93.7)
32.6
(90.7)
32.0
(89.6)
31.4
(88.5)
31.3
(88.3)
31.3
(88.3)
30.7
(87.3)
30.0
(86)
32.4
(90.3)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) 17.0
(62.6)
19.4
(66.9)
22.3
(72.1)
24.3
(75.7)
24.5
(76.1)
24.3
(75.7)
24.0
(75.2)
23.8
(74.8)
23.5
(74.3)
22.5
(72.5)
20.0
(68)
17.4
(63.3)
21.9
(71.4)
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) 2.4
(0.094)
18.8
(0.74)
43.5
(1.713)
67.9
(2.673)
208.0
(8.189)
223.0
(8.78)
180.8
(7.118)
260.0
(10.236)
213.9
(8.421)
167.6
(6.598)
37.1
(1.461)
0.8
(0.031)
1,423.8
(56.055)
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย 0 1 4 6 15 16 17 19 17 12 3 1 111
แหล่งที่มา: Thai Meteorological Department[4]

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด[แก้]

  • คำขวัญประจำจังหวัด : ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา เลอคุณค่ามรดกโลก
  • ตราประจำจังหวัด : รูปสังข์ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพานแว่นฟ้าภายในปราสาทใต้ต้นหมัน
  • ต้นไม้ประจำจังหวัด : หมัน (Cordia dichotoma)
  • ดอกไม้ประจำจังหวัด : ดอกโสน (สะ-โหน) (Sesbania aculeata)
  • สัตว์น้ำประจำจังหวัด : กุ้งก้ามกรามหรือกุ้งสมเด็จ (Macrobrachium rosenbergii)

การเมืองการปกครอง[แก้]

ประวัติการแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

ในสมัยอาณาจักรอยุธยามีการแบ่งการปกครองในราชธานีออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ การปกครองภายในบริเวณกำแพงเมือง และภายนอกบริเวณกำแพงเมือง โดยในบริเวณกำแพงเมืองก็จะแบ่งออกเป็น 4 แขวง ได้แก่ แขวงขุนธรณีบาล แขวงขุนโลกบาล แขวงขุนธราบาล และแขวงขุนนราบาล ต่อมาในสมัยอาณาจักรธนบุรีจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้รวมทั้ง 4 แขวงภายในกำแพงเมืองเป็นแขวงเดียวกัน เรียกว่า แขวงรอบกรุง และขยายอาณาเขตออกมาเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน และต่อมาเปลี่ยนมาเป็นอำเภอรอบกรุง อำเภอกรุงเก่า และอำเภอพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน ตามลำดับ

ส่วนการปกครองภายนอกบริเวณกำแพงเมือง บริเวณนอกกำแพงเมืองแบ่งออกเป็น 3 แขวง ได้แก่ แขวงขุนนคร แขวงขุนอุทัย และแขวงขุนเสนา และต่อมามีการแบ่งออกเป็นแขวงต่าง ๆ ดังนี้

  • แขวงขุนนคร อยู่ทางทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของกำแพงพระนครตั้งแต่ลำน้ำลพบุรีและลุ่มน้ำป่าสัก ต่อมามีการแบ่งออกเป็นแขวง คือ ทางด้านตะวันตกเป็นแขวงนครใหญ่ และด้านตะวันออกเป็น แขวงนครน้อย
  • แขวงขุนอุทัย อยู่ทางใต้ตั้งแต่เขตของแขวงขุนนครตลอดลงมายังมายังแม่น้ำเจ้าพระยาด้านตะวันออก ต่อมาได้มีการแบ่งออกเป็นแขวง คือ แขวงอุทัยใหญ่ และแขวงอุทัยน้อย
  • แขวงขุนเสนา อยู่ทางด้านตะวันตกมีอาณาเขตด้านเหนือจรดตะวันตกเฉียงใต้ของแขวงขุนนครและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาได้มีการแบ่งออกเป็นแขวง คือ แขวงเสนาใหญ่ ทางด้านตะวันตก และแขวงเสนาน้อย ทางด้านตะวันออก

ดังนั้น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แขวงในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงมีทั้งหมด 7 แขวง ได้แก่ แขวงรอบกรุง แขวงนครใหญ่ แขวงนครน้อย แขวงอุทัยใหญ่ แขวงอุทัยน้อย แขวงเสนาใหญ่ และแขวงเสนาน้อย ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการจัดระเบียบการปกครองเป็นมณฑลเทศาภิบาล มีการรวมเมืองเข้าด้วยกันเป็นมณฑล เปลี่ยนคำเรียกเมืองเป็นจังหวัด แขวงจึงต้องเปลี่ยนเป็นอำเภอตามไปด้วย และต่อมาสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นได้ทรงดำริว่า อำเภอแต่ละอำเภอมีพลเมืองมากและมีท้องที่กว้าง จึงให้แบ่งเขตการปกครองออกไปอีกในทุกอำเภอ ยกเว้นอำเภอรอบกรุง อำเภออุทัยใหญ่ และอำเภออุทัยน้อย ดังนี้

  • อำเภอนครใหญ่ ให้ทางตอนเหนือคงเป็นอำเภอนครใหญ่ และแบ่งเขตท้องที่ตอนใต้ออกเป็นอำเภอนครใน
  • อำเภอนครน้อย ให้ทางตอนเหนือคงเป็นอำเภอนครน้อย และแบ่งเขตท้องที่ตอนใต้ออกเป็นอำเภอนครกลาง
  • อำเภอเสนาใหญ่ ให้ทางด้านทิศเหนือคงเป็นอำเภอเสนาใหญ่ และแบ่งเขตท้องที่ด้านทิศใต้ออกเป็นอำเภอเสนากลาง
  • อำเภอเสนาน้อย ให้ทางด้านทิศใต้คงเป็นอำเภอเสนาน้อย และแบ่งเขตท้องที่ด้านทิศเหนือออกเป็นอำเภอเสนาใน

ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่ออำเภอต่าง ๆ โดยในปี พ.ศ. 2443 เปลี่ยนชื่ออำเภออุทัยน้อยเป็นอำเภอพระราชวัง ในปี พ.ศ. 2446 เปลี่ยนชื่ออำเภอนครกลางเป็นอำเภอนครหลวงมาจนถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2450 ได้แบ่งเขตท้องที่อำเภอพระราชวังด้านตะวันออกรวมกับอำเภออุทัยใหญ่ด้านใต้ แล้วยกขึ้นเป็นอำเภออุทัยน้อย แทนอำเภออุทัยน้อยเดิมที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอพระราชวังเมื่อปี พ.ศ. 2443 และมีการเปลี่ยนชื่ออำเภอต่าง ๆ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ตรงกับชื่อตำบลที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอ อำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อใหม่ ดังนี้[5]

และอีก 4 กิ่งอำเภอได้แก่ กิ่งอำเภอลาดบัวหลวง (ขึ้นกับอำเภอบางไทร), กิ่งอำเภอภาชี (ขึ้นกับอำเภออุทัย), กิ่งอำเภอบางซ้าย (ขึ้นกับอำเภอเสนา) และกิ่งอำเภอบ้านแพรก (ขึ้นกับอำเภอมหาราช) ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอตามลำดับจนครบในปี พ.ศ. 2502

การแบ่งเขตการปกครองในปัจจุบัน[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

แผนที่อำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน

ปัจจุบันจังหวัดพระนครศรีอยุธยาประกอบด้วย 16 อำเภอ 209 ตำบล ได้แก่

  1. อำเภอพระนครศรีอยุธยา
  2. อำเภอท่าเรือ
  3. อำเภอนครหลวง
  4. อำเภอบางไทร
  5. อำเภอบางบาล
  6. อำเภอบางปะอิน
  7. อำเภอบางปะหัน
  8. อำเภอผักไห่
  1. อำเภอภาชี
  2. อำเภอลาดบัวหลวง
  3. อำเภอวังน้อย
  4. อำเภอเสนา
  5. อำเภอบางซ้าย
  6. อำเภออุทัย
  7. อำเภอมหาราช
  8. อำเภอบ้านแพรก

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนทั้งสิ้น 158 แห่ง แบ่งออกเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, เทศบาลนคร 1 แห่ง คือ เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาเทศบาลเมือง 5 แห่ง, เทศบาลตำบล 30 แห่ง, และองค์การบริหารส่วนตำบล 121 แห่ง โดยเทศบาลสามารถจำแนกได้ตามอำเภอต่าง ๆ ดังนี้

อำเภอพระนครศรีอยุธยา

Call Now Button